ประวัติหลวงปู่ขาว อนาลโย พระอริยสงฆ์ผู้สำเร็จอริยธรรมแห่งเมืองหนองบัวลำภู หลวงปู่ขาว อนาลโย ผู้สำเร็จอริยธรรม
คิอ ๑. นางวัน ๒. นายบุญจันทร์ ๓. นางหนูแดง ๔. หลวงปู่ขาว
๕. นากาเหว่า ๖. นางหลอด ๗. นางไหล
เมื่อครั้งเป็นฆราวาสยึดอาชีพทำนา เมื่ออายุ ๒๐ ปี ได้แต่งงานกับนางมี มีบุตรธิดา ๗ คน
ได้แก่นายคำมี และนายลี โครถา เป็นต้น นายคำมีได้ออกบวชตามพ่อ และมรณภาพก่อนพ่อ
ส่วนนายลี โครถา ได้ติดตามปรนนิบัติหลวงปู่ขาวมาตลอด สาเหตุที่หลวงปู่ขาวออกบวชนั้น
มาจากภรรยาประพฤตินอกใจ จึงเป็นเหตุให้ท่านตัดสินใจออกบวช เพื่อแสวงหาความสุขทางใจ
อันเป็นความสุขที่แท้จริง ท่านออกบวชเมื่ออายุ ๓๑ ปี ที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว
อำเภออำนาจเจริญ ( ปัจจุบันจังหวัดอำนาจเจริญ ) จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเดือนพฤษภาคม
พ.ศ. 2462 โดยมีพระครูวิฒิศักดิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระบุญจันทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดโพธิ์ศรีนานถึง ๖ ปี ต่อจากนั้นได้ออกเที่ยวธุดงค์
กรรมฐานไปยังพระธาตุพนม อุดรธานี และหนองคาย ภูริทัตโตและได้พบกับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แต่พระอาจารย์มั่นต้องการวิเวกจึงหลีกหนีไป
เชียงใหม่ ฝ่ายหลวงปู่ขาว อนาลโยก็เดินธุดงค์ไปตามริมฝั่งโขงเรื่อย ๆ จึงถึงเชียงใหม่จึงได้รับโอวาท
จากพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และได้จำพรรษาที่เชียงใหม่ นั้น ๑ พรรษา ปฏิบัติธรรมจนได้บรรลุ
ธรรมชั้นสูง แล้วเดินธุดงค์กลับมาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านทางจังหวัดเลย หนองคาย
สกลนครและอุดรธานี ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ท่านหลวงปู่ขาว อนาลโย ได้เดินธุดงค์มาในเขตหนองบัวลำภูหลายแห่ง
และได้มาพบถ้ำแห่งหนึ่ง บนเทือกเขาภูพานคำ ชาวบ้านเรียกกันว่า " ถ้ำกลองเพล " เพราะก้อนหิน
ใหญ่ที่ถ้ำแห่งนี้มีสัณฐานเหมือนกับกลองเพล ท่านหลวงปู่ขาว อนาลโย ได้พักอยู่ที่ถ้ำกลองเพล
เพื่อบำเพ็ญสมณธรรมกรรมฐาน และได้พิจารณาดูภูมิประเทศแห่งนี้ว่าเป็นสถานที่สงบเงียบ
ไม่ห่างไกลจากหมู่บ้านนัก เป็นสถานที่เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรของพระสงฆ์ผู้ต้องการความสงบ
ท่านหลวงปู่ขาว อนาลโย จึงได้ตกลงใจอยู่จำพรรษา ณ วัดถ้ำกลองเพล แห่งนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๑
มาถึงวาระสุดท้ายเมื่อวันจันทรืที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ ท่านมรณภาพด้วยโรคชรา สิริรวม
อายุได้ ๙๕ ปี ๕ เดือน วัดถ้ำกลองเพล เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๐ ยังไม่เป็นวัดโดยสมบูรณ์
เป็นเพียงสำนักสงฆ์ ต่อมาในปี พ.ศ. ๑๕๑๓ เมื่อหลวงปู่ขาว อนาลโย ได้มาอยู่ประจำวัดถ้ำแล้ว
๑๒ ปีเศษ จึงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เป็นวัดโดยสมบูรณ์แบบเนื้อที่ตั้งวัดทั้งสิ้นมี
๑,๑๐๐ ไร่ หลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นพระฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานที่มีจริยาวัตรอันน่าเลื่อมใสมาก
เกียรติคุณของท่านได้ฟุ้งขจรไปทั่วทุกสารทิศ ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต ในเขตใกล้แดนไกล ได้พากัน
มากราบไหว้นมัสการและรับฟังโอวาทจากท่านหลวงปู่ขาว อนาลโย อยู่เป็นประจำมิได้ขาด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรม
ราชินีนาถ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอและพระเจ้าลูกยาเธอ ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ
หลวงปู่ขาว อนาลโย เพื่อทรงเยี่ยมเยือน ถวายปัจจัยไทยธรรม ถวายผ้าพระกฐินและสนทนาธรรม
ที่วัดถ้ำกลองเพลอย่างสม่ำเสมอ ถึง ๘ ครั้ง กล่าวคือ ครั้งที่ ๑ วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๙
ครั้งที่ ๒ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๑
ครั้งที่ ๓ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๒
ครั้งที่ ๔ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๒
ครั้งที่ ๕ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๓
ครั้งที่ ๖ วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๒๕
ครั้งที่ ๗ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๒๖
ครั้งที่ ๘ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๖
นอกจากนี้ยังได้ทรงเยี่ยมเยือนราษฎรที่มารอรับเสด็จภายในบริเวณวัดถ้ำกลองเพลด้วย
พระราชดำริที่ทรงปุจฉาวิสัชนาธรรมกับหลวงปู่ขาวนั้น อาจารย์ ดร.บุญยงค์ เกศเทศ และอาจารย์
นฤมล มีสูงเนิน แห่งมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้บันทึกคำบอกเล่าของหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต
ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ขาว และเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพลไว้ดังนี้
ในหลวง : ทำไมประชาชนถึงได้หลงไหลแห่แหนมากราบไหว้หลวงปู่ เขาอยากได้อะไร
หลวงปู่ขาว : เขาคงหอมศีลเขาจึงมา ถ้าไม่มีศีลเขาคงไม่มา หากพระไม่มีศีลมีแต่รูปที่งาม
สร้างวัดใหญ่สวยหรู ไม่ประพฤติปฏิบัติธรรม ก็คงไม่มีใครมากราบไหว้ ถึงแม้ว่าพระอยู่ในป่า ประพฤติปฏิบัติธรรมในป่าแต่มีศีลแล้ว เขาก็แห่แหนมากราบไหว้เอง
ในหลวง : ทำอย่างไรจึงจะให้ประชาชนรักษาศีลปฏิบัติธรรม
หลวงปู่ขาว : พระองค์ต้องปฏิบัติก่อนแล้วราษฎรก้จะปฏิบัติตามเอง
ในหลวง : เราปฏิบัติศีลห้าบริบูรณ์แล้ว
หลวงปู่ขาว : ถ้าทำอย่างนั้นแล้วราษฎรก้ต้องปฏิบัติตาม เจ้านายเป็นอย่างไรลูกน้องก็
เป็นอย่างนั้น ถ้าเจ้านายดี ลูกน้องก็ต้องดีด้วย ในหลวงปฏิบัติเช่นไรประชาชน
ก็ต้องปฏิบัติตาม
หลังจากที่พระองค์ได้สนทนาธรรมและวิธีปฏิบัติจากแนวคิดหลวงปู่ขาว ในครั้งนั้นแล้ว
พระองค์ทรงปวารณาตนเป็นอุบาสกต่อหลวงปู่ขาว หลวงปู่ขาวต้องการอะไร พระองค์ก็ทรงจัดหา
มาให้เท่าที่พระองค์จะทรงจัดหามาได้ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการหลวงปู่ขาว อนาลโย
อย่างสม่ำเสมอ ดังกล่าวแล้ว จนกระทั่งหลวงปู่ขาวถึงกาลมรณภาพ ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสว่า
" ศพของหลวงปุ่ขาวให้อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์จนถึงวันเผา " ระหว่างตั้งศพบำเพ็ญกุศล
ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพวงมาลาของหลวง และของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ
พระบรมราชินีนาถ วางหน้าโกศศพในวันตั้งศพวันแรก และได้ทรงบำเพ็ญพระราชทานกุศล ออก
เมรุพระราชทานแล้วยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุ
ชั่วคราว วัดถ้ำกลองเพลอีกด้วย พร้อมกันนี้ได้ทรงบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวนหนึ่งล้านสี่แสนบาท ทั้งเพื่อถวายเลี้ยง
พระสงฆ์และเป็นปัจจัยสมทบในการสร้างพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารของหลวงปู่ขาว อนาลโย และเมื่อ
สร้างเสร็จแล้วพระองค์ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ด้วย นับเป็นพระ
มหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ถ้าหากดวงวิญญาณของหลวงปู่ขาว อนาลโย สามารถทราบด้วยญาณ
วิถีใดก็ตาม คงบังเกิดความปีติเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ เพื่อให้เกียรติประวัติของหลวงปู่ขาว อนาลโย สมบูรณ์ครบถ้วน จึงขออัญเชิญคำสดุดีหลวงปู่ขาว อนาลโยของสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนและองคืปัจจุบัน มาลงไว้ ดังต่อไปนี้
คำสดุดีหลวงปู่ขาว อนาลโย ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ( วาสน์ วาสโน )
สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามในหัวข้อ " หลวงปู่ขาว อนาลโย " ความว่า "
หลวงปู่ขาว ฉายาว่า อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี เป็นพระเถระ
ฝ่ายวิปัสสนาธุระอรัญญวาสี มีจริยาวัตรหนักแน่นมั่นคงในธรรมปฏิบัติที่ปรากฎต่อศิษย์ยานุศิษย์
ผู้เคารพนับถืออย่างสนิทใจว่า ท่านเป็นผู้เห็นธรรมอย่างแท้จริง เพราะมีกาย วาจา ใจสงบระงับอยู่ใน
ทำนองคลองธรรม เป็นปกติวิสัย ไม่แสดงอาการหวั่นไหว เพราะประสบอารมณ์น่าปรารถนาหรือไม่น่า
ปรารถนาที่ผ่านเข้ามากระทบ คงดำรงอารมณ์มั่นตามหลักะรรมมีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์
มีความเห็นรู้แจ้งเห็นจริงตรงตามความเป็นจริง ปล่อยให้อารมณ์ทั้งสองฝ่ายนั้นผ่านไปตามธรรมดา
ไม่มีการยึดถือ ดังหยาดน้ำตกลงบนใบบัว ย่อมกลอกกลิ้งตกไปไม่ซึมซาบติดใบบัว ฉะนั้น นามฉายา
ของท่านว่า อนาลโย น่าชวนให้เข้าใจว่า หมายถึงชื่อตัวคือขาว นั่นเอง ที่จริงคำว่าอนาลดย
แปลว่าไม่มีอาศัย คือไม่มีความถือห่วงใยในฐานะเป็นเจ้าของ ทั้งในบุลคล สัตว์และพัสดุทั้งหลาย
ทางธรรมถือว่าผู้ยังยึดมั่นอยู่เช่นนั้นเป็นผู้มีใจไม่สะอาดหมดจด เพราะมัวหมองด้วยการยึดถือ
เมื่อหมดยึดถือ ปล่อยวางด้วยรู้เท่าทันธรรมดา เป็นความเห็นชอบ ตามความเป็นจริง จะเชื่อว่าใจ
สะอาดบริสุมธิ์สีขาวเปื้อนเป็นสีบริสุทธิ์ไม่มีสีอื่นแปดเปื้อน หลวงปู่ขาวมีฉายาว่า อนาลโย จึงทำ
ให้เข้าใจว่าผู้มีใจขาวบริสุทธิ์ คือกายกับใจของท่านบริสุทธิ์สมกัน ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ เห็นปานนี้
ย่อมข้ามพ้นมุจจุราชได้ สมเป็นปูชนียะชั้นประเสริฐแท้จริง ศิษยานุสิษย์และผู้เคารพนับถือ
จึงควรบูชาคุณธรรมของท่านด้วยฝึกฝนปฏิบัติตนตามปฏิปทาที่ท่านอบรมมาจนตลอดอายุขัย
เพื่อเป็นสักการะบูชาท่านผู้ทรงคุณควรบูชาจัดเป็นกตเวทีอย่างสมควรแท้ "
และคำสดุดีหลวงปู่ขาว อนาลโย ของสมเด็จพระญาณสังวร ( เจริญ สุวัฒโณ ) สมเด็จ
พระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในหัวข้อ " สังฆานุสติ " ความว่า " เมื่อระลึกถึงหลวงปู่ขาว อนาลโย
ก็อดไม่ได้ที่จะรึกถึงพระสังฆคุณว่า สุปฏิปันโน ภควาโต สาวกสังโฆ อุชุปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรงแล้ว ปฏิบัติถูกต้องแล้ว ปฏิบัติชอบ
เหมาะแล้ว จึงเกิดความเลื่อมใสเคารพ ในสุปฏิบัติ อุชุปฏิบัติ ญายปฏิบัติ สามีจิปฏิบัติของท่าน
ตั้งแต่ได้ไปกราบนมัสการท่านเป็นครั้งแรก ได้เห็นได้เข้าไปนั่งใกล้ ได้ฟังธรรมจากถ้อยคำของท่าน
พร้อมกับด้วยรู้สึกสัมผัสจิตใจของท่านอันเปี่ยมด้วยเมตตากรุณาจากสายตาสีหน้ากายวาจาที่
ต้อนรับด้วยธรรมปฏิสันถารอันบริสุทธิ์ เป็นที่ประทับใจให้ระลึกถึงและไปกราบนมัสการ ได้เห็นได้
สดับรับธรรมรสจากท่านอีกโดยลำดับมาแม้ขันธ์ของท่านจะแตกดับไป ตามธรรมดาของสังขาร
คุณของท่านอันพึงกล่าวได้ว่า อนาลโย คุโณ ย่อมดำรงอยู่เป็นที่ระลึกถึงและเคารพกราบไหว้ตลอดไป
พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดชตั้งแต่สมัยครั้งยังเป็นอำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จนถึงปัจจุบัน
หลายโครงการ นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ ของเมืองซึ่งจะจารึกอยู่ในหัวใจของพสกนิกรชาว
จังหวัดหนองบัวลำภู ไม่มีวันลืมเลือน ดังต่อไปนี้
ภาพถ่ายเสด็จพระราชดำเนินวัดในจังหวัดหนองบัวลำภู
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น