วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

สมุนไพร


กระเจี๊ยบแดง
กระเจี๊ยบเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงราว 3-6 ศอก กิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายรูป เช่น ขอบใบเรียบ หรือหยักเว้า 3 หยัก ดอกสีชมพู ตรงกลางจะมีสีเข้มกว่ากลีบส่วนนอก เมื่อกลีบดอกร่วง ใบประดับและกลีบเลี้ยงจะเจริญขึ้น มีสีม่วงแดงเข้มหุ้มผลไว้ภายใน มีเมล็ด ใช้ปลูก ปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ใบประดับและกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดง รสเปรี้ยว ทำแยมหรือใช้เป็นสารแต่งสี ในเยลลี่ ใบอ่อนของกระเจี๊ยบเป็นผัก ใช้แกงส้ม กระเจี๊ยบเปรี้ยวมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ส้มพอเหมาะ" ใบประดับ กลีบเลี้ยงและใบมีรสเปรี้ยว ใช้เป็นยากัดเสมหะ
กระชาย
กระชายเป็นไม้ล้มลุก สูงราว 1-2 ศอก มีลำต้นเป็นเหง้าใต้ดิน สีน้ำตาลเข้ม ขนานกับดิน มีราก รูปทรงกระบอก ปลายแหลมจำนวนมาก เนื้อในสีเหลือง มีกลิ่น หอม เฉพาะกาบใบ มีสีแดงเรื่อ ใบใหญ่ยาวรีปลายแหลม ดอกเป็นช่อ สีขาวอมชมพู บานครั้งละ 1 ดอก ปลูกในฤดูแล้ง โดยใช้เหง้าและราก
มีรสเผ็ดร้อน ช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี ปรุงเป็นอาหารหลายชนิด เช่นน้ำยาขนมจีน แกงป่าปลา ปลาร้าหลน กะปิคั่ว แกงขี้เหล็ก รับประทานอาหารที่มีกระชายอยู่ด้วย จะช่วยขับลมได้ดี แก้ปวดมวนในท้อง แก้ท้องอืด เฟ้อ บำรุงกำลัง
กะทือ
กะทือเป็นพืชล้มลุก ฤดูแล้งจะลงหัว เมื่อถึงฤดูฝนจะงอกใหม่ หัวมีขนาดใหญ่ และมีเนื้อในสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม ต้นสูง 3-6 ศอก ใบยาวเรียวออกตรงข้าม ดอกเป็น ช่อรูปกระบองโบราณ อัดกันแน่นสีแดง ซึ่งเป็นส่วนของใบประดับ มีดอกสีเหลืองอ่อน ขนาดเล็ก บานครั้งละ 1-2 ดอก ปลูกโดยใช้หัว ขึ้นได้ทั่วไป
ใช้หัวประกอบอาหาร เนื้อในมีรสขมและ ขื่นเล็กน้อย ขับลม แก้ปวดมวนแน่น แก้บิด บำรุงน้ำนม
กระเทียม
กระเทียมเป็นพืชล้มลุก มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่า หัว หัวมีกลีบย่อยหลายกลีบ ติดกัน เนื้อสีขาว มีกลิ่นฉุนเฉพาะบางครั้งในหนึ่งหัวมีกลีบเดียว เรียก "กระเทียมโทน" หัวค่อนข้างกลม ใบยาวแบน ปลายแหลม ภายในกลวงดอกรวมกันเป็นกระจุกที่ปลาย ก้านช่อดอก ดอกสีขาวอมเขียวหรือ อมชมพู-ม่วง ผลมีขนาดเล็ก ใช้หัวปลูกได้ทั่วไป
ป็นผักได้ทั้งใบ และหัวใต้ดิน หัวกระเทียมตากแห้งเก็บไว้ใช้ได้นาน ปรุงรส และแต่งกลิ่นอาหารหลายอย่าง กระเทียมดองเก็บไว้รับประทานได้นาน ๆ
รสเผ็ดร้อน เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร รักษากลาก เกลื้อน
กระวาน
กระวานเป็นไม้ล้มลุก สูง 2-3 เมตร ใบเรียวแหลม ดอกเป็นช่อแทงออกจากดิน กลีบดอกสีเหลืองมีใบประดับสีนวลหุ้ม ผลกลม
ใช้วิธีแยกหน่อปลูก ชอบความชื้นสูง ปลูกในป่าหรือใต้ไม่ใหญ่จะงามดี
เหง้าอ่อนของกระวานใช้รับประทานเป็นผัก มีกลิ่นหอมและเผ็ดเล็กน้อย ผลแก่ ตากแห้งใช้เป็นเครื่องเทศ รสเผ็ดร้อนกลิ่นหอม เป็นยาขับลม และเสมหะ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และแน่นจุกเสียด
กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้าเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าสีน้ำตาลแข็ง ลำต้นสูง ลำต้นที่อยู่เหนือดิน รูปร่างกลม เป็นส่วนของกาบใบหุ้มกันแน่น ใบสีเขียวใหญ่ ก้านใบยาวและเห็นชัดเจน ดอกออกที่ปลาย ลำต้นเป็นช่อใหญ่ ลักษณะห้อยลง ช่อดอกยาวประมาณ 1/2 -3/4 ศอก เรียกว่า ปลี มีดอกย่อย ออกเป็นแผง ผลจะติดกันเป็นแผง เรียกว่า หวี ซ้อนกัน หลายหวี เรียกว่า เครือ ใช้หน่อปลูก ปลูกได้ทั่วไป
กล้วยเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์ประจำวันมาก ใบกล้วยที่เรียกว่า ใบตอง ใช้ห่อขนม ต้นกล้วยใช้เลี้ยงหมู ทำแพ เป็นอุปกรณ์ในการทำกระทง ใส้ในต้นกล้วยที่ยังไม่ออกเครือ ใช้ทำอาหาร เช่น แกงกับกะทิ รับประทานเป็นผักสด หรือกับขนมจีนน้ำยา หัวปลีใช้แกงเลียง ทำเป็นขนมหวานหลายรูปแบบ เช่น กล้วยเชื่อม กล้วยฉาบ กล้วยปิ้ง กล้วยตากอบน้ำผึ้ง กล้วยกวน กล้วยทอด
กะเพรา
กะเพราเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก โคนต้นที่แก่เป็นไม้เนื้อแข็ง ยอดเป็นไม้เนื้ออ่อน ลำต้นและใบมีขนอ่อน มีกลิ่นหอมฉุน รูปรี ปลายใบและโคนใบแหลมหรือมนเล็กน้อย ขอบใบหยัก ดอกออกเป็นช่อ ดอกย่อยออกรอบแกนกลางเป็นชั้น ๆ กะเพราปลูกเป็นผักสวนครัวอยู่ทั่วไป มีกะเพราขาวและกะเพราแดง กะเพราขาวมีส่วนต่าง ๆ เป็นสีเขียว ส่วนกะเพราแดงจะมีส่วนต่าง ๆ เป็นสีเขียวอมม่วงแดง ปลูกโดยใช้กิ่งชำหรือใช้เมล็ด ปลูกได้ทั่วไป
กะเพราใช้เป็นเครื่องปรุงรสทำให้ร้อนและขับลมได้ดี ใบกะเพราใช้ใส่แกงป่าผัดเผ็ด ผัดเผ็ดนก ผัดขี้เมาและนำไปแต่งกลิ่นอาหารให้ชวนรับประทานขึ้น
กานพลู
การพลูเป็นไม้ต้นขนาดกลาง ใบค่อนข้างหนาเป็นมัน ยอดอ่อนสีแดงเป็นมัน ใบส่องแดดจะเห็นจุดน้ำมันอยู่ทั่วไป ออกดอกเป็นช่อขนาดเล็ก ดอกสีแดงอมชมพู เก็บดอกตูมขณะที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง และทำให้แห้งเก็บไว้ใช้ ปลูกโดยใช้ เมล็ด ขึ้นได้ดีในเมืองร้อนชอบอากาศร้อนและความชี้นสูง
กานพลูแห้งเป็นเครื่องเทศ ช่วยแต่งกลิ่นอาหาร รสเผ็ดร้อน กลิ่นหอม ช่วยขับลม ดอกกานพลูช่วยป้องกันไม่ให้เด็กอ่อนท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
ข่า
ลำต้นที่อยู่ในใต้ดินเรียกว่า เหง้า เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน เนื้อในสีเนื้อ และมีกลิ่นหอมเฉพาะลำต้นที่อยู่เหนือดิน สูงได้ถึง 2 เมตร ใบสีเขียว ออกสลับข้างกัน รูปร่างรียาว ปลายแหลม ดอกออกเป็นช่อที่ยอด ดอกย่อยมีขนาดเล็ก สีขาวนวล ด้าน ในของกลีบดอกมีประสีแดง ผลเปลือกแข็ง รูปร่างกลมรี
เหง้าข่า เป็นเครื่องเทศที่ใช้ชูรสอาหาร ใส่ในเครื่องแกงแทบทุกชนิด ใช้ปรุงต้มข่าไก่ ผัดเผ็ด ลาบ ช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ใส่ในต้มเนื้อ ต้มปลา เพื่อดับกลิ่นคาวรสเผ็ดปร่า ขับลม แก้บวม ฟกซ้ำ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
ข้าวกล้อง
ข้าวกล้องเป็นพืชล้มลุก ขึ้นรวมเป็นกอ มี 5-15 ต้น ลำต้นมีข้อชัดเจน ใบเดี่ยวออกสลับกันรูปร่างแบนยาวเรียว ปลายแหลม ดอกขนาดเล็กออกเป็นช่อใหญ่และยาว ขนาดและลักษณะรายละเอียดจะแตกต่างกันตามพันธุ์ของข้าว ปลูกโดยใช้เมล็ด และ ปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
ข้าวกล้องมีคุณค่าต่อร่างกายมากกว่าข้าวขาว ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ผ่านการกระเทาะเปลือกนอกออกคือส่วนที่เรียกว่า"แกลบ" ส่วนจมูกข้าวและเยื่อหุ้มข้าว(รำ) ยังคงอยู่ ส่วน นี้ทำให้ข้าวกล้องมีประโยชน์สูงกว่าข้าวขาวมาก มีเส้นใยช่วยให้ขับถ่ายอุจจาระได้ดี ช่วย ป้องกันอาการท้องผูก และโรคอื่นๆได้
ขิง
ขิงเป็นพืชล้มลุกมีเหง้าใต้ดิน เหง้าจะแตกแขนงคล้ายนิ้วมือ เนื้อในสีเหลืองแกมเขียวลำต้นที่อยู่เหนือดินตั้งตรงยาวราว 2-3 ศอก เกิดจากกาบใบมาเรียงซ้อนกันแน่นใบสีเขียวปลายใบแหลม ดอกเป็นช่อ ก้านดอกยาว ดอกสีเหลืองอ่อน มีใบประดับเรียงซ้อนกันแน่น เป็นรูปกระบองโบราณ จะบานจากโคนไปหาส่วนปลาย ปลูกโดยใช้เหงา ชอบดินร่วนซุยและอากาศชุ่มชื้น ปลูกงามเป็นบางแห่ง
ขิงอ่อนปรุงเป็นอาหาร เช่น ไก่ผัดขิง ขิงยำ หรือใช้เป็นผักแกล้ม ส่วนขิงไม่แก่นักชงเป็นนำดื่ม ขิงแก่ใช้ต้มกับนำตาลใส่เต้าฮวย หรือใส่ในมันต้มนำตาลให้มีรสเผ็ด กลิ่นหอม รสหวานเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นเหียนอาเจียน น้ำมันขิงเป็นยาขับลมที่ดี ช่วยไปกระตุ้นการบีบตัวของกระเพราะอาหารและลำใส้ อาการมีเสมหะ ฝนกับน้ำมะนาว แทรกเกลือเล็กน้อย ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อยๆ
ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันเป็นพืชล้มลุกที่มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าขนิ้นสีเหลืองเข้มจนถึงสีเหลืองจำปา มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบคล้ายใบพุทธรักษา ปลายแหลม ดอกออกเป็นช่อมีก้านช่อแทงจากเหง้าโดยตรง ดอกสีขาวอมเหลือง ใบประดับสีเขียวอมชมพู ใช้เหง้าปลูกปลูกได้ทั่วไป
ขมิ้นชัน ใช้เป็นเครื่องปรุงรสและสารแต่งสี อาหารหลายอย่างใส่ขมิ้น ทำให้สีและกลิ่นชวนรับประทาน รสฝาดกลิ่นหอม แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ขับลม แก้ท้องร่วง มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ช่วยขับลม ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น เจริญอาหาร เหง้าสดขมิ้นชันใช้เป็นยารักษาฝี แผลพุพอง และแก้อาการแพ้อักเสบ ใช้รักษาอาการ ท้องอืดเฟ้อ ปวดท้อง แน่นจุกเสียด และอาหารไม่ย่อย
ขี้เหล็ก
ขี้เหล็กเป็นต้นไม้ขนาดกลาง ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อยประมาณ 10 คู่ ใบเรียว ปลายใบมนหยักเว้าเล็กน้อย โคนใบกลม สีเขียว ใต้ใบสีอ่อนกว่าด้านบน และมีขนเล็กน้อย ดอกเป็นช่อสีเหลือง ฝักแบนหนา ขี้เหล็กปลูกไม่ยาก ใช้เมล็ดปลูกได้ทุกภาคของประเทศ
ขี้เหล็ก ดอกตูมและใบอ่อนของขี้เหล็ก มีรสขม ต้องต้มเทน้ำทิ้งหลายๆครั้งก่อน จึงนำมาปรุงเป็นอาหารได้ นิยมใช้ทำแกงกะทิ หรือรับประทานเป็นผักจิ้ม ช่วยระบายท้องได้ดี ดอกตูมและใบอ่อน รสขม ช่วยระบายท้อง ดอกตูมทำให้นอนหลับได้ ช่วยเจริญอาหาร สารอัลคาลอยด์ที่อยู่ในใบขี้เหล็กมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ช่วยให้นอนหลับได้ อาการท้องผูก อาการนอนไม่หลับ กังวล เบื่ออาหาร
ลู่
ลู่เป็นวัชพืชเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ยอดและใบอ่อนมีขนทั่วไป ใบกลมมน ปลายใบหยัก ดอกออกเป็นช่อ ประกอบด้วยดอกเล็ก ๆ สีขาวอมม่วง ปลูกโดยวิธี ปักชำหรือเมล็ด ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด
ลู่ ขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ
คำฝอย
ดอกคำฝอยเป็นพืชล้มลุกสูงราว 1 เมตร ลำต้นเป็นเหลี่ยม ก้านใบสั้น ใบรูปร่างเรียว ริมใบหยักแหลม เป็นหนาม เนื้อใบเรียบ ดอกออกรวมกันเป็นช่อ อัดแน่นบน ฐานดอก รูปร่างกลมเหมือนกับดอกดาวเรือง ดอกย่อยสีเหลือง ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้ม เมื่อแก่เป็นสีส้มแดง เมล็ดสีขาว ใช้เมล็ดปลูก ปลูกได้ทางเหนือของประเทศไทย
ดอกคำฝอย เพิ่งเริ่มปลูกในประเทศไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แก้อาการอักเสบ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อบางตัวได้ ใช้รักษาสตรีที่ประจำเดือนคั่งค้าง หรืออาการปวดบวม ฟกช้ำดำเขียว น้ำมันดอกคำฝอยช่วยลดคอเรสเตอรอล
คูน
คูนเป็นไม้ต้นขนาดกลาง ใบเป็นใบประกอบ ใบย่อยนขาดใหญ่มี 3-8 คู่ รูปไข่ ปลายปลายแหลม ดอกเป็นช่อระย้าสีเหลืองและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ฝักกลมยาว เมื่อแก่จัดเป็นสีน้ำตาย ปลูกโดยใช้เมล็ดและตอนกิ่ง ปลูกได้ทั่วไป
คูน ส่วนที่ใช้เป็นยา เนื้อในฝักแก่ รสหวานเอียนเล็กน้อย สรรพคุณ เป็นยาระบายถ่ายสะดวกไม่มวน ไม่ไซ้ท้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น